ก่อนเดินทาง
เที่ยวในประเทศหรือจะเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ การเที่ยวทุกครั้งเราควรตรวจสอบสภาพอากาศเพื่อนำมาวางแผนใน
การเดินทาง การท่องเที่ยว ปัญหาของคนส่วนใหญ่อีกข้อหนึ่งคือไม่ตรวจสอบสภาพอากาศให้ดีก่อน เพื่อการเดินทาง และท่องเที่ยว จะได้แฮปปี้ เพราะปัญหานี้มักเกิดบ่อยๆ โดยเฉพาะมือใหม่ ตรวจสอบสภาพอากาศแต่ละพื้นที่
http://www.tmd.go.th/index.php ตัวอย่างเที่ยวแต่ละที่
1.
ไปเที่ยวทะเล เราควรตรวจสอบสภาพอากาศ ในช่วงนั้นๆ ว่าเหมาะที่จะไปเที่ยวรึป่าว ไม่ใช้เดินทางไปเที่ยวทะเลเจอฝนตกทั้งวัน ตรวจสอบสภาพอากาศได้ที่
http://www.tmd.go.th/index.php และอย่าลืมศึกษาข้อแนะนำต่างๆในการเที่ยว สำคัญมาก
ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการเที่ยวทะเล ขณะเล่นน้ำทะเล ไม่เล่นน้ำหลังรับประทานอาหารเพราะจะทำให้เป็นตะคริว, หากเป็นธงสีแดงหนึ่งอันแสดงว่าอันตราย แต่ถ้าเป็นธงสีแดง 2 อันแสดงว่าพื้นที่นั้นอันตรายมาก ส่วนธงสีเหลือง แสดงว่าให้ระวัง ไม่ควรเล่นน้ำตามลำพัง, การปฏิบัติตนในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากถูกคลื่นทะเลดูด ให้ว่ายน้ำเลี่ยงจากจุดที่คลื่นทะเลดูดและรีบว่ายเข้าหาฝั่งทันที กรณีถูกคลื่นทะเลซัดอย่างรุนแรงห้ามว่ายสวนกระแสน้ำ ให้ว่ายขนานกับชายฝั่ง จะช่วยให้พ้นจากกระแสน้ำได้, ในการดำน้ำบริเวณลึก จะต้องเรียนดำน้ำอย่างถูกวิธีและเลือกใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่เหมาะสมกับการใช้งาน, ห้ามดำน้ำขึ้น - ลงอย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้ก๊าซภายในปอดขยายตัวอย่างรวดเร็วและเข้าไปอยู่ ในเลือด โดยเฉพาะช่วงขึ้นจากน้ำ จนทำให้เลือดขึ้นไปอุดตันสมอง จนเกิดภาวะน็อกน้ำทะเล ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้, กรณีถูกกระแสน้ำซัด อย่าว่ายสวนหรือว่ายทวนน้ำ จะทำให้เหนื่อยง่าย ให้ใช้วิธีลอยตัวไปตามกระแสน้ำ รอจนกว่าจะมีเรือมารับ, ไม่ควรดำน้ำตามลำพัง ควรมีกลุ่มเพื่อนลงไปดำน้ำด้วย เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีคนคอยช่วยเหลือ และพยายามเกาะกลุ่มไว้ เพื่อไม่ให้พลัดหลง และควรหยุดดำน้ำทันที หากเริ่มมีกระแสน้ำพัดห่างออกจากฝั่งไปเรื่อยๆ หรือมีฝนตั้งเค้าและเริ่มมีคลื่นลมรุนแรงขึ้น
2. ไปเที่ยวนำตก เหมือนกันครับตรวจสอบสภาพอากาศ ให้ดี และตรวจสอบสภาพอากาศพื้นที่ใกล้เคียงด้วย เพราะฝนอาจตกบริเวณต้นนำก็จะทำให้เกิดนำป่าได้
ข้อแนะนำเพิ่มเติม - การปฏิบัติตนขณะลงเล่นน้ำตก หรือกิจกรรมอื่นๆในสายน้ำเช่นการล่องแก่งด้วยเรือยาง ล่องแก่งด้วยเรือคายัก ให้สังเกตระดับน้ำในลำธารและสีของสายน้ำ หากน้ำมีระดับเพิ่มขึ้น หรือสีของน้ำเปลี่ยนจากน้ำใสเป็นสีแดงขึ้น ขุ่นขึ้น กระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงขึ้น ให้รีบขึ้นจากสายน้ำทันที หรือถ้าหากกำลังล่องแก่งก็ให้พักเรือเข้าฝั่ง หยุดพักดูจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย ระดับน้ำไม่สูงเพิ่มขึ้น จึงค่อยเดินทางต่อ
- พยายามสังเกตและฟังเสียงที่ดังผิดปรกติ เพราะน้ำป่าที่เชี่ยวไหลหลากล้นลงมาจากบนภูเขานั้น จะก่อให้เกิดเสียงดังขึ้นกว่าเสียงของสายน้ำปรกติ ซึ่งช่วงระยะเวลาสั้นๆนั้น อาจเป็นช่วงนาทีชีวิตที่จะสามารถหนีรอดจากน้ำป่าที่บ่าไหลได้ หรือเตรียมตัวมองทางหนีทีไล่ไว้ให้พร้อมเผื่อเกิดวิกฤติขึ้นมา จะได้หนีขึ้นที่สูงได้ทัน
- การลงเล่นน้ำตกควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่อย่างเคร่งครัด เช่นไม่ลงเล่นน้ำในบริเวณเขตหวงห้าม ซึ่งอาจจะมีอันตรายจากน้ำวน
หรือกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง ซึ่งสถานที่ดังกล่าวอาจมีป้ายเตือน ป้ายห้ามแจ้งเอาไว้ และไม่ควรปีนป่ายขึ้นไปตามริมหน้าผาน้ำตก
หรือบนพื้นที่อันตรายเพราะอาจลื่นพลัดตกลงมาได้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำหรือคำเตือนของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสถานที่อย่างเคร่งครัด
- หากมีความจำเป็นต้องเข้าไปตั้งแค้มป์ในป่า ไม่ควรตั้งแค้มป์ใกล้ชิดริมลำธารมากเกินไป เพราะในตอนกลางคืนขณะพักผ่อนนอนหลับ
อาจจะมีน้ำป่าบ่าไหลลงมาก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายยิ่ง เพราะจะมองไม่เห็นทิศทางที่จะหนีเอาตัวรอด จึงควรเลือกทำเลตั้งแค้มป์ที่ปลอดภัยจากระดับน้ำ หรือพ้นจากหุบเขาที่เคยเป็นร่องน้ำเก่า หรือช่องทางน้ำไหลเดิมแม้จะเป็นร่องน้ำที่แห้งไม่มีน้ำแล้วก็ตาม
- หากอยู่ท่ามกลางฝนตก หรือฟ้าคะนองในธรรมชาติ ควรปิดโทรศัพท์มือถือหรือวิทยุ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดฟ้าฝ่า หากไม่จำเป็นแล้วการทำกิจกรรมกลางแจ้งไม่ควรสวมเครื่องประดับที่ทำจากโลหะติดตัวไป
- ในสายน้ำหรือตามโขดหินริมลำธารที่ส่วนใหญ่เปียกน้ำอยู่ตลอดเวลานั้นค่อนข้างจะลื่น ควรระมัดระวังในการเดิน และควรใช้รองเท้าเดินป่าที่กระชับ พื้นรองเท้าควรเป็นยางชนิดอ่อน และมีดอกยางซึ่งจะเกาะพื้นหินพื้นดินได้ดีกว่ารองเท้าพื้นแข็ง
- ไม่ควรอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่เปียกหรืออยู่ในน้ำที่หนาวเย็นเป็นเวลานานๆ เกินไป เพราะร่างกายจะค่อยๆสูญเสียความร้อน และอาจจะเป็นตะคริวจมน้ำ หรือเป็นไข้ขึ้นได้